เดิมในยุโรปมีหลายประเทศไม่มีกฎหมายด้าน EMC บังคับใช้ เช่น ไอซ์แลนด์ กรีก สวีเดน เป็นต้น ในขณะที่บางประเทศเช่น เยอรมัน อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส ออกเป็นกฎหมายบังคับแล้ว การนำสินค้าจากประเทศในภูมิภาคอื่นๆของโลกไปวางจำหน่ายในกลุ่มสหภาพยุโรปจึงยังคงยุ่งยาก แต่เมื่อยุโรปมีนโยบายรวมกันเป็นสหภาพยุโรป และมีนโยบายทางการค้าเป็นตลาดร่วมยุโรป (single market for goods) สหภาพยุโรปจึงได้ออกเป็นกฎหมายความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆในเดือนพฤษภาคม 2532
ดังนั้นหัวใจในการวางผลิตภัณฑ์ให้สามารถจำหน่ายในยุโรปคือ การได้เครื่องหมายรับรองของตลาดร่วมยุโรป เครื่องหมาย CE Marking (Communaute Europeance) ที่ติดอยู่บนผลิตภัณฑ์จะเป็นเครื่องแสดงว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ ผ่านการทดสอบตามข้อกำหนดหรือแนวทางของ EMC (EMC Directive) ที่ออกโดยตลาดร่วมยุโรป
เครื่องหมายการรับรองผลิตภัณฑ์ในตลาดร่วมยุโรป
แนวทางของมาตรฐานยุโรป (EU Directive)
เนื่องจากในประเทศเหล่านั้นมีกฎระเบียบที่เข้มงวดในเรื่องมาตรฐานสินค้า บังคับใช้กับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าในตลาด ตลอดจนมีผลบังคับใช้กับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศด้วย
การที่ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยผลิตสินค้าสักชิ้นหนึ่งเพื่อที่จะส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศแถบสหภาพยุโรป จะประสบปัญหาจากข้อกำหนดของการทดสอบตามมาตรฐานหลายมาตรฐาน ตัวอย่างเช่น หากบริษัทของท่านเป็นผู้ผลิตของเล่นแบบเครื่องจักรไอน้ำ ที่ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม ดังรูปที่ 2 และต้องการส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศแถบยุโรป สินค้าของท่านจะต้องถูกทดสอบในหลายมาตรฐาน ซึ่งถูกกำหนดโดยตลาดร่วมยุโรป ดังนี้